สมุนไพรสลายนิ่ว, Stone Free

สมุนไพรสลายนิ่ว, Stone Free ขนาดบรรจุ: 90 เม็ด

 

ขนาดรับประทาน: รับประทาน 2 เม็ดระหว่างมื้ออาหาร เช้า และ 3 เม็ด ระหว่างมื้ออาหารเย็น

 

ผลิตโดยบริษัท Planetary Herbals, สหรัฐอเมริกา

 

หมดอายุ : 07/2024

 

ส่วนประกอบสำคัญใน 1 หน่วยบริโภค (5 เม็ด) ประกอบด้วย

 

โซเดียม, Sodium 15 มก.

สมุนไพรต่างๆ 3.28  กรัม ประกอบด้วย

รากแดนดิไลออนสกัด(Dandelion Root Extract), ขมิ้นชันสกัด(Turmeric Root), รากกราเวลสกัด (Gravel Root), รากชะเอมสกัด(Licorice Root Extract), ขิงสกัด(Ginger Root), เลมอนบาล์ม(Lemon Balm Leaf), และรากพาร์สลี่ย์ (Parsley Root)

 

 

สมุนไพรสลายนิ่ว, Stone Free ส่งเสริมการทำงานของตับ ไต(Kidney) และถุงน้ำดี (Gallbladder) ส่งเสริมการไหลเวียนของน้ำดี (Bile)*** แก้ปัญหาของระบบทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ นิ่ว โรคนิ่วในไตและทางเดินปัสสาวะ (kidney stone) ช่วยสลายก้อนนิ่ว

 

แดนดิไลออน (Dandelion) ชื่อวิทิยาศาสตร์ คือ Taraxacum officinale อยู่ในวงศ์ Asteraceae เป็นสารอาหารที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับ ลดผลข้างเคียง จากยาที่เข้าทำลายตับ(ผู้ที่ต้องทานยาเป็นประจำ) ทั้งยังช่วยบำรุงระบบทางเดินอาหาร ช่วยในภาวะ น้ำดีผิดปกติ อาการเบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อย กระตุ้นการขับปัสสาวะจึงช่วยลดอาการบวมน้ำได้

 

เลมอนบาล์ม (Lemon Balm) ชื่อวิทิยาศาสตร์ คือ Melissa officinalis L. อยู่ในวงศ์ Lamiaceae เป็นพืชในตระกูลมิ้นต์ วงศ์กะเพรา สะระแหน่ มีสารสำคัญที่ชื่อว่า เมนทอล(Menthol) ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้เย็นซาบซ่ามีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหย ช่วยแก้ปวด มีฤทธิ์ทำให้ชาลดอาการอักเสบ ฆ่าเชื้อโรค คลายกล้ามเนื้อเรียบ ขับลมในกระเพาะ บรรเทาอาการคัดจมูก ขับเสมหะ ลดไข้ ทำให้เส้นเลือดบีบตัว เสริมสร้างการทำงานของตับ

 

กราเวล (Gravel) ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Eupatorium Purpureum จัดอยู่ในวงศ์ Compositae รากกราเวล มีสรรพคุณเด่นในการแก้ปัญหาของระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ(infections of the bladder), โรคนิ่วในไตและทางเดินปัสสาวะ (kidney stone) ช่วยสลายก้อนนิ่วที่เกิดขึ้นในไต ซึ่งประกอบด้วยหินปูน (แคลเซียม) กับสารเคมีอื่นๆ เช่น ออกซาเลต, กรดยูริก เป็นต้น การเกิดนิ่วจึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาวะที่มีแคลเซียมในปัสสาวะมากผิดปกติ

 

พาร์สลี่ย์ (Parsley) ชื่อวิทยาศาสตร์ Petroselinum crispum (Mill.) จัดอยู่ในวงศ์ UMBELLIFERAE ชื่อไทยเรียก ขึ้นฉ่ายฝรั่ง หรือเทียนเยาวพาณี เป็นพืชขนาดเล็กคล้ายต้นผักชี มีอายุประมาณ 2 ปี ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง แตกกิ่ง สูงได้ประมาณ 50-120 เซนติเมตร รากพาร์สลี่ย์ มีสรรพคุณในรักษาโรคในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ Urinary tract infection (UTI), โรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ โดยนิ่วจะแบ่งได้สองประเภทตามตำแหน่งที่พบคือ นิ่วไต ( Nephrolithiasis / kidney stone ) พบมากในผู้ใหญ่ และนิ่วกระเพาะปัสสาวะ จะพบมากในเด็ก

 

ชะเอมเทศ (Licorice) ชื่อวิทยาศาสตร์ Glycyrrhiza glabra Linn. จัดอยู่ในวงศ์ FABACEAE เป็นสมุนไพรที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นยอดสมุนไพรที่ช่วยขจัดพิษ ซึ่งการรับประทานเป็นประจำในปริมาณน้อยๆ จะช่วยกำจัดพิษที่สะสมในร่างกายให้ลดลงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิษที่สะสมในเลือดและตับ และชะเอมเทศยังมีชื่อเสียงในด้านเป็นยาขับเสมหะ แก้อาการไอและอาการเจ็บระคายคอ และนิยมนำมาใช้เพื่อช่วยลดอาการอักเสบต่างๆ ช่วยฟื้นการทำงานของเยื่อหุ้มและเนื้อเยื่อต่างๆ ให้เป็นปกติ สร้างสมดุลฮอร์โมน กระตุ้นการหลั่งของสารในลำไส้

 

ขิง (ginger) ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Zingiber officinale Roscoe อยู่ในวงศ์ ZINGIBERACEAE สรรพคุณของขิงที่สามารถลดอาการจุกเสียดได้ดี เนื่องจากมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งสารออกฤทธิ์คือ เมนทอล (Menthol) ซีนีออล (Cineole) จะไปกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อที่ระบบทางเดินอาหารให้บีบตัวมากขึ้น จึงเกิดการขับลมออกมา ขิงยังช่วยป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนระหว่างการเดินทาง หรืออาการเมารถ ซึ่งขิงจะออกฤทธิ์โดยตรงต่อระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ พบว่าขิงช่วยลดอาการปวดจากข้ออักเสบ (Arthritis), แก้หลอดลมอักเสบ (Bronchitis), การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจตอนบน (Upper respiratory tract infections) ได้ดี

 

*** น้ำดี (Bile) คือ น้ำย่อยไขมันที่สร้างจากตับและนำมาเก็บไว้ในถุงน้ำดี เมื่อเราทานอาหาร อาหารในกระเพาะอาหารจะช่วยกระตุ้นให้ถุงน้ำดีบีบตัว หลั่งน้ำดีที่เก็บไว้ให้เข้าสู่ลำไส้เล็กตอนบน เพื่อย่อยไขมันให้เป็นกรดไขมัน ซึ่งถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และร่างกายนำไปใช้หรือนำไปสะสม นอกจากนั้น ความเป็นด่างของน้ำดียังช่วยลดความเป็นกรดของอาหารจากกระเพาะอาหาร จึงช่วยลดการระคายเคืองของกรดต่อลำไส้เล็ก และยังช่วยฆ่าแบคทีเรียบางชนิดที่ปนเปื้อนในอาหารได้อีกด้วย

 

น้ำดี จะผสมอยู่ในกากอาหารหลังการย่อยแล้ว (อุจจาระ) ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้อุจจาระของคนปกติมีสีเหลือง หรือน้ำตาล ซึ่งก็คือสีของน้ำดีนั่นเอง ดังนั้น โรคต่างๆ ที่ส่งผลให้เกิดการอุดตันของทางเดินน้ำดี จนไม่มีน้ำดีไหลเข้าสู่ลำไส้ จะส่งผลให้ผู้ป่วยมีอุจจาระสีซีดขาวกว่าปกติ และเมื่อมีน้ำดีคั่งในตับจากโรคของตับ เช่น โรคไวรัสตับอักเสบ สารให้สีหรือบิลิรูบินในน้ำดี จะล้นเข้าสู่กระแสเลือด จากนั้นจะเข้าไปจับในเยื่อตา เยื่อบุอวัยวะต่างๆ และในผิวหนัง ส่งผลให้เกิดภาวะตาและตัวเหลือง (โรคดีซ่าน) และสารให้สีนี้จะถูกกำจัดออกจากร่างกายโดยไตทางการปัสสาวะ จึงเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยมีปัสสาวะสีเหลืองเข็มกว่าปกตินั่นเอง

 

ข้อควรระวัง

 

ไม่ควรรับประทานขณะตั้งครรภ์ เตรียมตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร