นัตโตะไคเนส, Nattokinase

นัตโตะไคเนส (Nattokinase) ขนาดบรรจุ 90 แคปซูล(Vegetarian)

 

ขนาดรับประทาน: ครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1-2 ครั้ง, ระหว่างมื้ออาหาร

 

ผลิตโดยบริษัท Now Foods, สหรัฐอเมริกา

 

หมดอายุ : 01/2023

 

ส่วนประกอบสำคัญใน 1 แคปซูล

 

เอนไซม์นัตโตะไคเนส, Nattokinase (fibrinolytic units) enzyme activity 2,000 FU

 

 

เอมไซม์ Nattokinase ซึ่งมีอยู่ในถั่วหมักนัตโตะ สามารถป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ลดความเสี่ยงหัวใจวายและเส้นเลือดในสมองแตก งานวิจัยของนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยกิฟู ได้ทำการทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง 29,000 คน ในจังหวัดทะคะยะมะ เก็บข้อมูลสุขภาพตั้งแต่ปี 1992 พร้อมกับการสำรวจสุขภาพของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ และสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วตลอดระยะเวลา 16 ปี ผลการวิจัยพบว่า ผู้ที่รับประทานถั่วหมักนัตโตะ มากถึง 7 กรัมต่อวัน หรือมากกว่า 35 กรัมต่อสัปดาห์ จะมีอัตราการเสียชีวิตจากเส้นเลือดในสมองแตกลดลงร้อยละ 32 และความเสี่ยงจากอาการกล้ามเนื้อหัวใจตาย ก็ลดลงเช่นกัน

 

คุณประโยชน์ของเอนไซม์จากถั่วเน่าญี่ปุ่น นัตโตะไคเนส (Nattokinase)

 

ลดอาการไซนัสอักเสบเรื้อรัง (chronic rhinosinusitis: CRS) ลดการอักเสบในระบบทางเดินหายใจ ช่วยให้หายใจได้สะดวกขึ้น ลดอาการของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic obstructive pulmonary disease | COPD), หลอดลมอักเสบเรื้อรัง (Chronic bronchitis) และไซนัสอักเสบ โพรงอากาศข้างจมูกอักเสบ (Sinusitis) ได้ดี

อุดมด้วยวิตามินเค2 (Vitamin K2) ช่วยในเรื่องของการเกาะตัวของแคลเซียมที่กระดูกส่งผลให้กระดูกแข็งแรง ลดการเกิดตะกรันแคลเซียมที่เกาะกับคราบไขมัน(plaque)ในหลอดเลือด ลดการอุดตันของหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี

ป้องกันการเกิดลิ่มเลือด นัตโตะไคเนส ช่วยเพิ่มการทำงานของพลาสมิน เป็นเอนไซม์ที่อยู่ในกระแสเลือด ที่ออกฤทธิ์ทำลาย/สลายลิ่มเลือด หรือไฟบริน ที่เกิดในหลอดเลือด ให้ผลในการป้องกันการเกิดลิ่มเลือด(Thrombus) ซี่งเป็นสาเหตุรากเหง้าของอาการเส้นเลือดในสมอง ทำให้รอดพ้นจากโรคเส้นเลือดสมองแตก ความไม่สมดุลย์ระหว่างการก่อตัวและการย่อยสลายของลิ่มเลือด ส่งผลให้เกิดอาการเส้นเลือดสมองแตก อาการกล้ามเนื้อหัวใจตาย อัลไซม์เมอร์ ลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ การอุดตันของเส้นเลือดแดงในปอด การปวดประจำเดือน ลดความดัน

ลดคอเลสเตอรอล ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี(LDL) เพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี(HDL) และป้องกันการสะสมของไขมันในเส้นเลือด ช่วยสลายการอุดตันในเส้นเลือด

ลดความข้นหนืดของเลือด (Viscosity) ช่วยให้ระบบการไหลเวียนเลือดได้ดีขึ้น

ปรับสมดุลความดันโลหิต นัตโตะยังช่วยสังเคราะห์อดิโพเนคทิน ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ปรับสมดุลความดันโลหิต โรคเบาหวานและการแข็งตัวของเส้นเลือดใหญ่

โรคที่เกิดในช่องท้อง และลำไส้ คนญี่ปุ่นในยุคโบราณ ไม่ว่าจะเป็นโรคบิด ไธฟอยด์ อาการท้องผูก จะแก้อาการดังกล่าวด้วยการบริโภคนัตโตะ (Natto) ซึ่งจะสามารถแก้อาการท้องผูก และท้องเสียได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันนัตโตะ ยังสามารถเพิ่ม ประสิทธิภาพการทำงานให้กับแบคทีเรียชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อลำไส้ได้เป็นอย่างดี แบคทีเรียบาซิลลัสนัตโตะ ยังช่วยสร้างความสมดุลย์ ของเชื้อแบคทีเรียชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อลำไส้ โดยใช้วิธีการยับยั้งการเจริญเติบโตแบคทีเรียที่ไม่ดีในลำไส้

บำรุงผิวพรรณ โพลีกลูตามิค แอซิด มีพบในนัตโตะ จะช่วยให้ผิวพรรณมีความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประสิทธิภาพของ โพลีกลูตามิค แอซิด จะมีความสามารถในการเก็บความชุ่มชื้นได้ถึง 5 พันเท่า ( 1 กรัมของ โพลีกลูตามิค แอซิด จะสามารถห่อหุ้มโมเลกุลของน้ำได้มากถึง 5 กิโลกรัม) สามารถช่วยรักษาสมดุลของปริมาณน้ำและน้ำมันภายใต้ชั้นผิวหนังทำให้ผิวคงสภาพความชุ่มชื้นได้อย่างต่อเนื่อง จึงช่วยให้สุขภาพผิวพรรณดี ช่วยบำรุงผิว คงความชุ่มชื่นให้กับผิว ช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ คงความอ่อนเยาว์ให้กับผิวพรรณ

เพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ แบคทีเรียบาซิลลัสนัตโตะ มีส่วนประกอบ ของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่มีความแข็งแรงมากที่สุดที่ชื่อ แบคทีเรียบาซิลลัสนัตโตะ ที่ทนต่อน้ำย่อยในกระเพาะ ซึ่งมีอัตราการรอดมากถึง 90% เมื่อเทียบกับ แล็กติกแอซิดแบคทีเรีย ที่มีอัตราการรอดเพียง 1% จึงมีอัตราการรอดที่สูงกว่า แบคทีเรียแล็กติกแอซิด หลายเท่า และแบคทีเรียบาซิลลัสนัตโตะ มีความสามารถในการต่อสู้กับแบคทีเรียชนิดที่ทำให้เกิดโรคมากกว่า แบคทีเรียแล็กติกแอซิด ถึง 10 เท่า

กำจัดสารพิษ เนื่องด้วยแบคทีเรียบาซิลลัสนัตโตะ มีความสามารถในการต่อสู้กับแบคทีเรียชนิดที่ทำให้เกิดโรค จึงมีส่วนช่วยในเรื่องของกำจัดสารพิษตกค้างในลำไส้ จึงช่วยให้สุขภาพของระบบบำไส้ และระบบขับถ่ายมีสุขภาพที่ดี

 

 

คำเตือน

 

ไม่ควรรับประทานขณะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร

ผู้ที่แพ้ถั่วเหลือง ไม่ควรรับประทาน

ผู้ที่มีภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ(blood coagulation disorder) ไม่ควรรับประทาน

ผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulants) หรือวิตามินเค ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน