สารสกัดกระเทียม, Garlic Allicin 5000

สารสกัดกระเทียม, Garlic Allicin 5000 ขนาดบรรจุ 90 เม็ด (enteric coated tablet)

 

ขนาดรับประทาน : วันละ 1 เม็ด, พร้อมอาหาร

 

หมดอายุ : 04/2021

 

ผลิตโดย บริษัท Now Foods, สหรัฐอเมริกา

 

ส่วนประกอบสำคัญใน 1 แคปซูล

 

สารสกัดกระเทียม (อัลลิซิน), Odor-Controlled Garlic (Allium sativum) (Bulb) (min. 5,000 mcg Allicin potential per tablet) 500 มก.

 

 

สารสกัดกระเทียม, Garlic Allicin ให้สารออกฤทธิ์ อัลลิซิน 5,000 ไมโครกรัม ต่อเม็ด บรรจุในเม็ดเคลือบฟิล์ม ไม่ละลายในกระเพาะอาหาร แต่ละลายในลำไส้เล็ก ซึ่งจะช่วยให้เกิดการดูดซึมสารอัลลิซินได้ดีและไม่มีกลิ่นกระเทียมหลังรับประทาน

 

ประโยชน์ของสารอัลลิซินในกระเทียม

 

ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดการอุดตันของเส้นเลือด, ลดการเกาะตัวของเกร็ดเลือดได้ 58%, ลดคอเลสเตอรอล, ลดไตรกลีเซอไรด์, ลดความดันโลหิต, เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต, ลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis)

 

ต้านเซลล์มะเร็ง สารออกฤทธิ์ในกระเทียมจะช่วยยับยั้งการเกิดสารก่อมะเร็งที่ชื่อ ไนโตรซามีนในร่างกาย ซึ่งช่วยป้องกันการเป็นมะเร็งได้, สารอีกตัวหนึ่งในกระเทียมชื่อ S-ALLYLMERCAPTO CYSTEINE ช่วยลดอุบัติการการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก(prostate cancer) ได้ถึง 50%

 

ต้านเชื้อแบคทีเรีย, เชื้อไวรัส และเชื้อรา กระเทียมช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้เพิ่มขึ้น เช่น macrophaqes, T-lymphocyte activity และ antibody production นอกจากนี้แล้วยังพบว่ากระเทียมมีฤทธิ์ในต้านเชื้อแบคทีเรีย, เชื้อไวรัส และเชื้อรา ได้ดี กระเทียมมีประโยชน์ต่อการรักษาโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ, การเกิดพิษจากโลหะหนัก, หูอักเสบ, น้ำตาลในเลือดสูง, การปรับสภาพของร่างกายต่อความเครียด, การได้รับแอลกอฮอล์มากเกินไป และโรคท้องร่วง

 

ออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (major antioxidant) กระเทียมมีประโยชน์อย่างมากต่อโรคของหลอดเลือด (arterial disease) และโรคเสื่อมต่างๆ (degenerative tissue condition) ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี ลดภาวะที่เซลล์ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ จึงช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ ลดการเกิดโรคที่เกิดจากความเสื่อมภายในเซลล์

 

สารออกฤทธิ์สำคัญในกระเทียม ตัวยาสำคัญที่เด่นๆ ซึ่งพบในกระเทียมก็เช่น สารอัลลิซิน สารอัลลิอิน สารสคอร์ดินิน และสารไดอัลลิล ไดซัลไฟด์ เป็นต้น กระเทียม เป็นสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพนานัปการ เช่น สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียช่วยลดความดันโลหิต ขับลม ช่วยป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ลดน้ำตาลในเลือด เป็นต้น

 

สารออฤธิ์ที่พบในกระเทียมที่พบมากในกระเทียม คือ สารอัลลิอิน ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นสารอัลลิซิน เมื่อกระเทียมถูกสับหรือทุบให้แตก สารอัลลิซิน เป็นสารที่ทำให้เกิดกลิ่นในกระเทียม ซึ่งมีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียบางชนิด เช่น แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของวัณโรค คอตีบ ปอดบวม คออักเสบ และเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ว่า อัลลิซินนี้ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดอันเป็นสาเหตุของโรคหัวใจได้

 

ในปี ค.ศ.1940 มีการสกัด สารอัลลิซิน ได้จากกระเทียม สารนี้มีคุณสมบัติในการลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด (Augusti,1977) ช่วยลดน้ำตาลกลูโคสในเลือด ช่วยเสริมประสิทธิภาพของยาฆ่าเชื้อรา ช่วยลดการอักเสบ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งเนื้องอกและเซลล์มะเร็งบางชนิด สารอัลลิซิน กระเทียมจะออกมาได้ก็ต่อเมื่อทำการบดกระเทียมให้แหลก แต่สารชนิดนี้ก็จะสลายตัวได้ง่าย แม้เมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิห้อง แต่ปัจจุบันมีวิธีทำให้สารอัลลิซินมีความคงตัวสูงโดยทำให้แห้ง (Koch,1988:Aye and Muker,1989)

 

สารในกระเทียมมีคุณสมบัติไล่เห็บดูดเลือดหรือตัวทิค (Tick) ป้องกันสัตว์จำพวกเห็บหรือทิคกัด (Tick bites), สัตว์จำพวกเห็บหรือทิค บางตัวเป็นพิษมาก อยู่ในกลุ่มของพิษที่เรียกว่า NEUROTOXIN ซึ่งมีอยู่ในน้ำลายหรือเอนไซม์ของพวกทิค เมื่อถูกกัดมันจะปล่อยเอนไซม์เข้าไปใน ผิวหนัง พิษจะเข้าไปทำลายระบบประสาท ตั้งแต่ขา (เวลาเดินป่า) ขาจะเริ่มชาแล้วจะลามขึ้นไปถึงส่วนบนของร่างกายอาจขึ้นไปถึงสมอง คนที่แพ้อาจถึงขั้นเป็นอัมพาตได้ อาการแพ้เมื่อโดนทิคกัด คือ จะมีอาการปวดหัว ปวดทั้งตัว จนไข้ขึ้น คลื่นไส้ อาเจียน

 

กระเทียมถูกนำมาใช้เป็นยาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณเรื่อยมา เข้ามาในยุโรป อินเดีย และเอเชียและเผยแพร่เข้าไปในอเมริกา ปัจจุบันมีการวิจัยศึกษาสารสำคัญในกระเทียมที่มีประโยชน์ในการรักษาโรค โรคที่ใช้รักษาได้คือ โรคหัวใจ, มะเร็ง, ภูมิคุ้มกันบกพร่อง, ใช้ต่อต้านอนุมูลอิสระก่อนที่จะทำลายเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย

 

ข้อควรระวัง :

 

บุคคลที่ต้องทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น Warfarin ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานกระเทียม

หากต้องเข้ารับการผ่าตัดควรจะแจ้งแพทย์ก่อนหรือควรงดกระเทียมก่อนเข้าทำการผ่าตัดอย่างน้อย 2 อาทิตย์

ไม่ควรรับประทานขณะตั้งครรภ์

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

 

https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-300/garlic